จริงๆ แล้ว การดึงหน้าร้อยไหม จะดึงผิวหน้าของเราไว้ได้นานไม่นาน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ดังนี้
ขึ้นอยู่กับอีลาสตินในเนื้อของตัวเจ้าของที่มาดึงหน้า
เพราะเนื่องจากเส้นไหมที่ร้อยจะมีเงี่ยงที่เกี่ยวกับตัวเนื้อคล้ายๆ กับตะขอ ซึ่งถ้าหากเนื้อเยื้อที่เราเกี่ยวไว้หมดสภาพ หรือเกิดการเสื่อมสภาพตามกาลเวลา เงี่ยงนั้นก็จะไม่สามารถเกาะไว้ได้นาน ซึ่งในบางเคส สภาพเนื้อบนผิวหน้าบางทีก็หลุดออกจากเส้นไหมก่อนที่ตัวไหมจะละลายอีกด้วย ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วไหมจะเริ่มละลายหมดที่ 4-6 เดือน นี่จึงเป็นสาเหตุหลักที่พบว่าเคสที่อายุมาก ผลลัพธ์หลังการร้อยไหมจึงอยู่ได้สั้นลง เพราะด้วยผิวของคนที่อายุมาก จะขาด Elastin แต่เมื่อมีการดึงหน้าร้อยไหมหลายๆ ครั้ง ก็จะทำให้อยู่ได้นานขึ้น เพราะตัวไหมจะช่วยกระตุ้นให้สร้าง Elastin หลังการร้อยไหม แต่ทั้งหมดทั้งมวล ไม่ได้อยู่ที่การร้อยอย่างเดียวนะ ขึ้นอยู่กับคุณภาพของเส้นไหมที่ร้อยด้วยนะจ๊ะ
เรามาดูกันต่อที่วัสดุที่ใช้ร้อยไหมแบบปลอดภัย หลักๆ ก็จะมีอยู่ 3 รูปแบบ
1.PCL (Polycaprolactone) ตัวนี้จะเป็นไหมละลายหมดภายใน 18-24 เดือน ลักษณะของตัวเส้นไหม จะเป็นเส้นสีขาวขุ่น มีความยืดหยุ่นสูงที่สุด เส้นใหญ่ที่สุด
2.PLLA (Polylactate) ตัวนี้จะเป็นไหมละลายหมดภายใน 12-18 เดือน ลักษณะของตัวเส้นไหม จะเป็นเส้นสีขาวใส ขาดความยืดหยุ่น อาจจะพบปัญหา ไหมขาด ไหมทะลุได้บ่อย ซึ่งหากจะทำการดึงหน้าร้อยไหม ก็ต้องสอบถามกับทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทำการร้อยก่อนได้
3.PDO (Polydioxanone) ตัวนี้จะเป็นไหมจะละลายหมดภายใน 4-6 เดือน ลักษณะของตัวเส้นไหม จะเป็นเส้นสีน้ำเงิน มีความยืดหยุ่นสูง เป็นที่นิยมมากที่สุดเพราะบวมน้อย ช้ำน้อย ด้วยการเลือกใช้ไหมชนิดเข็มทู่
ทีนี้ สาวๆ ที่อยากจะดึงหน้าร้อยไหม คงพอจะเข้าใจเกี่ยวกับข้อมูลที่วันนี้ทีมงาน Aya Clinic เราจัดสรรมาให้กับเพื่อนๆ กันแล้วนะจ๊ะ อย่างที่รู้กันอยู่แล้ว ความสวยสมัยนี้ ไม่ได้ยากอย่างที่คิด อยู่ที่คุณว่าพร้อมที่จะสวยและมั่นใจกันแล้วหรือยัง ?

