ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ เติมเต็มแก้มให้ดูเรียวสวย สมดุลกันทั้งสองข้าง
เมื่อวันเวลาผ่านไป อายุเริ่มมากขึ้น ความอ่อนเยาว์เริ่มหมดไป สังเกตได้จากความอวบอิ่มบริเวณใบหน้า ของแต่ละคน จะค่อยๆ จางหายไป จนเกิดปัญหาแก้มตอบ ขมับยุบ ใต้ตาโหลลึก จนทำให้เรารู้สึกไม่มั่นใจ ส่วนใหญ่มักจะกังวลและไม่รู้ว่าจะแก้ไขอย่างไร ซึ่งที่จริงการรักษาเบื้องต้นสามารถทำหลายวิธี อย่างเช่น การแต่งหน้าให้แก้มดูอวบอิ่มขึ้น การรับประทานอาหารเสริมวิตามินบำรุง ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน หรือการเพิ่มน้ำหนักก็ช่วยได้ เป็นต้น แต่เมื่อปัญหาเพิ่มมากขึ้นตามวัย ทาครีมหลักหมื่นก็ยังไม่ดีขึ้น ไขมันหายไปร่วมกับกระดูกยุบตัว การรักษาด้วยการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ หรือบริเวณขมับและร่องใต้ตา จะช่วยเติมเต็มความอวบอิ่มบนใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็วตรงจุด
ฟิลเลอร์ (Filler) คือ สารเติมเต็มฮายารูโรนิก แอซิด ( Hyaluronic Acid ) ซึ่งเป็นสารชนิดเดียวกับผิวหนังของเรา จึงปลอดภัยและไม่มีผลข้างเคียง มีคุณสมบัติช่วยกักเก็บน้ำไว้ใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวอิ่มน้ำ ไม่แห้งกร้าน ช่วยเติมเต็มช่องว่างระหว่างผิว ทำให้ผิวเรียบเนียน เต่งตึง ยืดหยุ่น เติมเต็มร่องลึกบริเวณชั้นผิว ทำให้ริ้วรอยจางลงได้ ภายในระยะเวลาไม่นาน
การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ เป็นอีกหนึ่งในวิธีที่ช่วยให้ผิวหน้าบริเวณแก้มของเรา ที่ดูเหี่ยวแห้ง กลับมาดูอวบอิ่มได้อีกครั้ง โดยแพทย์จะใช้สารเติมเต็มฮายารูโรนิก แอซิดฉีดเข้าไปยังบริเวณที่ต้องการ ซึ่งเป็นสารที่ปลอดภัยไม่อันตราย และไม่เกิดอาการแพ้ ระคายเคืองใดๆ ตัวสารจะเข้าไปทำหน้าที่อุ้มน้ำของผิวบริเวณนั้น ทำให้ใบหน้าดูอวบอิ่ม มีน้ำมีนวลขึ้น ช่วยทำให้ร่องลึกของผิวบริเวณนั้นดูตื้นขึ้น และยังทำให้ผิวดูเรียบเนียนอีกด้วย
สารเติมเต็มสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ชนิดดังนี้
1.สารเติมเต็มแบบชั่วคราว (Temporary Filler) จะสามารถอยู่ในร่างกายของเราได้นานประมาณ 8-12 เดือน และไม่มีอันตราย ถือว่ามีความปลอดภัยมาก และจะสลายไปตามธรรมชาติ ชนิดนี้คือ Hyaluronic acid ที่กล่าวถึง และเป็นชนิดเดียวที่ผ่านอย.ในประเทศไทย
2.สารเติมเต็มแบบกึ่งถาวร (Semi-Permanent Filler) จะอยู่ในร่างกายของเราได้นานประมาณ 2 ปี มีความปลอดภัยระดับหนึ่ง ชนิดนี้ไม่ผ่านอย. และไม่อนุญาตให้ใช้ในประเทศไทย
3.สารเติมเต็มแบบถาวร (Permanent Filler) สามารถอยู่ในร่างกายของเราได้ตลอดไป ไม่สลายตัว ซึ่งมักมีปัญหาตามมาในระยะยาวได้ ชนิดนี้ไม่ผ่านอย. และไม่อนุญาตให้ใช้ในประเทศไทย
โดยแพทย์จะใช้เวลาฉีดฟิลเลอร์ประมาณ 15-30 นาที ซึ่งในระหว่างที่ฉีด อาจจะรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อย แต่บางรายอาจมีอาการตึงๆบริเวณที่ฉีด ซึ่งอาการต่างๆ เหล่านี้จะหายไปเองภายใน 1-2 วัน หลังฉีดเสร็จแพทย์จะทำการปั้นให้เข้ารูปเพื่อให้ฟิลเลอร์เกิดการเซทตัว และดูแลตนเองได้ตามปกติโดยไม่ต้องพักฟื้น แต่มีข้อควรระวัง คือไม่ควรนวดหรือกดแรงๆตรงบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ในช่วง 1-2 สัปดาห์หลังฉีด และควรดื่มน้ำเยอะๆให้มากกว่าวันละ 2 ลิตร เพื่อให้ฟิลเลอร์มีความอุ้มน้ำและคงตัวสวยได้รูป
ถึงแม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบจะเป็นวิธีที่ดีและน่าสนใจ แต่ก็อาจจะต้องมีการกลับมาฉีดใหม่ เพราะสารที่ใช้จะสลายตัวไปภายใน 1-1.5 ปี สำคัญที่สุดคือต้องเลือกคลินิกเสริมความงามที่ใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ได้คุณภาพผ่านอย.เท่านั้น รวมทั้งฝีมือการฉีดที่สวยงามโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการฉีด อย่ามัวแต่มองหาราคาถูก เพราะเราต้องการความปลอดภัยซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

