โบท็อกซ์มีกี่แบบ มีของแบรนด์ไหนบบ้าง และแตกต่างกันอย่างไร
การมีใบหน้าที่เรียว กระชับ ไร้ริ้วรอย ดูจะเป็นที่หมองปองของคนทุกเพศ ทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น วัยทำงาน หรือแม้กระทั่งวัยสูงอายุ ที่ไม่ยอมให้ปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อยมากพรากความสวยงามไป จึงได้มีผู้เชี่ยวชาญคิดค้นวัตกรรมเพื่อความงามที่เรียกว่า โบท็อกซ์ ขึ้นมาเพื่อให้คุณได้มีหน้าเรียวกระชับ ไร้ริ้วรอย แต่คุณจะเลือกฉีดโบที่ไหนดี นั้นต้องตามมาดูข้อมูลเรื่องโบท็อกซ์กันก่อน
รู้จักโบท็อกซ์กันหรือไม่
โบท็อกซ์ที่คนส่วนใหญ่นิยมเรียกกันนั้น ที่จริงแล้วมาจากชื่อของสารสกัดที่เรียกว่า Botulinum toxin A ซึ่งสารสกัดนี้ได้มาจากการสกัดโปรตีนจาก Clostridium botulinum ซึ่งเป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ซึ่งในทางการแพทย์นั้นได้ใช้เพื่อลดอาการตาเข ตาเหล่ อาหารหนังตากระตุก อาการไมเกรน เป็นต้น ซึ่งต่อมาได้นำมาใช้ในด้านการเสริมความงามซึ่งช่วยให้ใบหน้ากระชับ เต่งตึง ลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า
โบท็อกซ์ที่ใช้เพื่อเสริมความงามมีกี่ยี่ห้อ
ยี่ห้อของโบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อนั้นมีความแตกต่างกัน ทั้งความบริสุทธิ์ ปริมาณสารสกัด ขนาดของโมเลกุล และแน่นอนว่าราคาก็ไม่เท่ากันด้วย ตัวอย่างโบท็อกซ์ที่ได้รับความนิยม มีดังนี้
1.Allergan เป็นโบท็อกซ์จาก USA ซึ่งเป็นโบท็อกซ์ยี่ห้อแรกๆที่เริ่มได้รับความนิยม เกิดการดื้อยาน้อย ให้ผลอย่างตรงจุด ควรฉีดที่คลินิกฉีดโบที่ไหนดีที่มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ
2.Dysport เป็นโบท็อกซ์จากอังกฤษ ออกฤทธิ์เป็นบริเวณกว้างจึงนิยมนำมาใช้ในการฉีดเพื่อลดเหงื่อ ลดต้นแขน ต้นขา และน่อง
3.Xeomin เป็นโบท็อกซ์จากประเทศเยอรมันนี เป็นโบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธิ์มากที่สุด ใช้ได้ดีแม้กระทั่งผู้ที่เคยดื้อยามาก่อน ออกฤทธิ์ในบริเวณที่เหมาะสมไม่แคบหรือกว้างเกินไป การใช้โบท็อกซ์ชนิดนี้จะต้องเว้นจากการฉีดโบท็อกซ์ชนิดเดิม2-3ปี และมีราคาค่อนข้างแพง
4.Neuronox เป็นโบท็อกซ์จากเกาหลีที่มีการออกฤทธิ์คล้ายกับ Allergan แต่มีราคาที่ถูกกว่า
5.Botulax เป็นโบท็อกซ์จากเกาหลี ราคาไม่แพง มีการออกฤทธิ์เร็ว แต่ก็สลายเร็วเช่นกัน
6.Nabota โบท็อกซ์ชนิดสุดท้ายตัวนี้ก็มาจากประเทศเกาหลีเช่นเดียวกัน เป็นโบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธิ์ การออกฤทธิ์เร็ว นิยมใช้บริเวณหน้าผาก หางตา และช่วยในการปรับหน้าเรียววีเชฟ
การเลือกโบท็อกซ์นั้นมีความสำคัญอย่างมากหากคุณไม่ได้ฉีดโบที่ไหนดีที่คลินิกเสริมความที่ได้มาตรฐานมีแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ คุณอาจได้โบท็อกซ์คุณภาพต่ำ ราคาไม่แพง และผู้ฉีดขาดความเชี่ยวชาญในการฉีดซึ่งเป็นอันตรายอย่างมาก และมีตัวอย่างให้เห็นอยู่บ่อยๆ
